การฉลองวันสงกรานต์

สงกรานต์ปีใหม่ไทยใจสุขล้น ทุกๆคนต่างพากันเล่นสาดน้ำ
สุดชื่นฉ่ำอุราน่าจดจำ สายน้ำทำให้หายคลายความร้อน
รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่คลายร้อนใจ อวยพรให้ทุกคนมีแต่ความสุข
ทุกทิวาห่างไกลจากความทุกข์ สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจ
*(จะเรียกว่ากลอนแปดก็กระไร เรียกว่าลำนำจากใจก็แล้วกัน)

วันสงกรานต์เป็นวันปีใหม่ไทยมาแต่ดั้งเดิม คำว่า “สงกรานต์” มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า การเคลื่อนที่ หรือการเคลื่อนย้าย หมายถึงการเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์จากราศีหนึ่งสู่อีกราศีหนึ่ง ตามความหมายในภาษาสันสกฤตสงกรานต์จึงเกิดขึ้นทุกเดือน ส่วนระยะเวลาที่คนไทยเรียกว่า “สงกรานต์” นั้น เป็นช่วงที่พระอาทิตย์เคลื่อนย้ายจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ นับว่าเป็นมหาสงกรานต์ เพราะเป็นวันและเวลาตั้งต้นปีใหม่ตามสุริยคติซึ่งถือปฏิบัติในอินเดีย1ปัจจุบันกำหนดให้วันที่ 13-15 เมษายน วันที่ 13 เมษายน ถือเป็นวันมหาสงกรานต์คือเป็นวันที่พระอาทิตย์ก้าวเข้าสู่ราศีเมษ เป็นวันสิ้นปีเก่า วันที่ 14 เมษายน เป็นวันเนา คือวันที่เชื่อมต่อระหว่างปีเก่ากับปีใหม่ และวันที่ 15 เมษา เป็นวันเถลิงศกขึ้นปีใหม่ ประเพณีสงกรานต์ นอกจากเป็นประเพณีการขึ้นปีใหม่ของไทยแล้วยังพบว่าประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว พม่า กัมพูชา ตลอดจนกลุ่มชนที่พูดภาษาตระกูลไทหลายกลุ่มก็มีประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีการขึ้นปีใหม่ด้วย เช่น ไทลื้อในเขตปกครองตนเองสิบสองพันนา และไทเหนือในเขตปกครองตนเองใต้คง มณฑลยูนานสาธารณรัฐประชาชนจีน ไทขึ้นและไทใหญ่ในพม่า ไทพ่าเก ไทอ่ายตอนและไทคำตี่หรือไทคำที่ในรัฐอัสสัมและรัฐอรุณาจัลประเทศ ประเทศอินเดียi

กิจกรรมที่คนไทยนิยมทำในวันสงกรานต์นั้น เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าจะมีการทำบุญตักบาตร หลังจากตักบาตร สรงน้ำพระพุทธรูปโดยนำดอกไม้ ธูปเทียนไปบูชาแล้วจึงนำน้ำอบไปประพรมที่องค์พระ เพื่อแสดงความเคารพบูชา รวมทั้งมีพิธีรดน้ำญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เป็นที่เคารพนับถือเพื่อขอศีลขอพรตามประเพณี เหตุที่มีการสรงน้ำ รดน้ำ และสาดน้ำในวันสงกรานต์ เนื่องมาจากความเชื่อที่ว่าการสาดน้ำจะช่วยให้ฝนฟ้าตกบริบูรณ์ เนื่องจากน้ำเป็นเครื่องหมายแห่งความอุดมสมบูรณ์ เมื่อมีน้ำในการเพาะปลูก ทำไร่ไถนาก็ได้ผล นอกจากนี้ยังมีการขนทรายเข้าวัดและประเพณีบังสุกุลอัฐิญาติ ผู้ใหญ่ การบังสุกุลนั้นโดยมากทำในวันสรงน้ำพระหรือไม่ก็ทำในวันท้ายวันสงกรานต์ เพราะตามประเพณีในสมัยก่อนไม่ให้เอาอัฐิเข้าบ้านโดยจะให้ฝังไว้ใต้โคนต้นโพธิ์ในวัด หลังจากนั้นจึงจะนิมนต์พระไปบังสุกุล และเมื่อทำบุญเรียบร้อยแล้ว มักจะนิยมปล่อยนกปล่อยปลาเพื่อต่อชีวิตให้กับสัตว์นั้น ๆ

สำหรับวิทยาลัยพุทธศาสนานานาชาติก็ได้มีการฉลองวันสงกรานต์เช่นเดียวกับที่อื่นๆ ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกที่มีการจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ขึ้นที่วิทยาลัย โดยในวันที่ 12 เมษายน มีการจัดกิจกรรมให้นักศึกษาต่างชาติรับประทานอาหารร่วมกัน รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอพรและสาดน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นชาวต่างชาติต่างวัฒนธรรมรวมตัวกันเพื่อฉลองสงกรานต์ ทั้ง มาเลเซีย จีน บังกลาเทศ ลาว พม่า อินเดีย ไทย กัมพูชา ฯลฯ ซึ่งนักศึกษาต่างชาติส่วนมากจะไม่เคยได้สัมผัสกับกิจกรรมแบบนี้ สำหรับเค้าถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่แปลกใหม่แต่ทุกคนก็มีความสุขและสนุกสนานมาก นอกจากนี้ทางวิทยาลัยได้พานักศึกษาไปเที่ยวที่จังหวัดพัทลุงในวันที่ 13 เมษายน ซึ่งฉันก็ได้คอยช่วยเป็นไกด์ให้เพื่อนต่างชาติ สถานที่หลักๆที่เราไปกันก็มีทั้งหมด 3 ที่ด้วยกัน ได้แก่ วัดถ้ำสุมะโน ทะเลน้อย และป่าไผ่สร้างสุข เราทุกคนออกเดินทางจากวิทยาลัยประมาณ 07.45น. มุ่งตรงไปยังวัดถ้ำสุมะโน เมื่อถึงวัดทุกคนก็ได้เดินชมถ้ำต่างๆภายในวัด ซึ่งถ้ำเหล่านี้เอาไว้ใช้สำหรับเป็นสถานที่ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ทุกคนล้วนตื่นตาตื่นใจกับถ้ำมากมายและชื่นชมความสวยงามของพระพุทธรูปภายในถ้ำพร้อมเก็บภาพบรรยากาศความประทับใจด้วยการถ่ายรูปเก็บไว้ หลังจากนั้นเราก็ได้ไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านครัวคุณอ้อย ซึ่งที่ร้านก็มีให้เลือกทั้งข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว และชา กาแฟ แต่บรรยากาศในการสั่งอาหารจะค่อนข้างวุ่นวาย เนื่องจากนักศึกษาต่างชาติไม่เข้าใจภาษาไทย ฉันและเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนไทยจึงต้องคอยช่วยทุกคนจนสั่งอาหารครบและคอยช่วยดูเวลาคิดเงินว่าคนขายคิดถูกต้องหรือไม่ หลังรับประทานอาหารเสร็จเราทุกคนก็ได้นั่งรถกันไปต่อที่ทะเลน้อยเพื่อไปนั่งเรือชมทุ่งดอกบัวและควายน้ำ ระหว่างทางก่อนถึงทะเลน้อยมีคนมากมายเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันตามท้องถนน ทำให้นักศึกษาต่างชาติรู้สึกตื่นเต้นและอยากที่จะร่วมเล่นด้วยเพราะเค้าไม่เคยเล่นมาก่อน เมื่อถึงทะเลน้อยเราทุกคนก็นั่งเรือออกไปลำละ 7 คน ถึงแม้อากาศจะร้อนมากในช่วงนั้นแต่ทุกคนก็ยังสนุกสนานกันมาก ขณะที่นั่งอยู่บนเรือทุกคนต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์ตรงหน้าที่เป็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่ มีทั้งนกชนิดต่างๆบินไปมา ทุ่งดอกบัว และควายน้ำ แต่สิ่งที่คนส่วนมากชอบที่สุดคงจะหนีไม่พ้นทุ่งดอกบัวเพราะเราสามารถเก็บสายบัวมารับประทานและดอกบัวนำมาใส่แจกันได้ จากนั้นเราก็นั่งรถต่อไปที่ป่าไผ่สร้างสุขเพื่อไปชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนและเลือกซื้อของฝาก ของกิน แต่เมื่อเราไปถึงร้านส่วนมากใกล้จะปิดแล้วและร้านค่อนข้างน้อยเพราะเป็นวันศุกร์ ที่ป่าไผ่สร้างสุขส่วนมากจะเปิดขายในวันเสาร์ หลังจากไปครบทั้งสามสถานที่แล้ว เราทุกคนก็ได้เดินทางกลับวิทยาลัย

การเดินทางไปพัทลุงกับวิทยาลัยในครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีที่ทางวิทยาลัยได้มอบโอกาสให้ฉันได้ร่วมเดินทางไปด้วย และเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมครั้งนี้ ทำให้ฉันได้รู้จักและเห็นสถานที่ใหม่ๆที่ไม่เคยไปมาก่อน อีกทั้งได้มีโอกาสเป็นล่ามให้เพื่อนๆชาวต่างชาติที่พูดภาษาไทยไม่ได้ ถึงแม้ว่าสงกรานต์ปีนี้ฉันจะไม่ได้กลับบ้านหรือไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างทุกๆปีแต่ฉันก็รู้สึกมีความสุขมากที่ได้ร่วมฉลองสงกรานต์กับวิทยาลัย ซึ่งไม่ได้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการฉลองกับครอบครัวเพราะในความรู้สึกของฉันการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิทยาลัยนั้นก็ไม่ต่างจากครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งที่ช่วยเหลือ ดูแลซึ่งกันและกันตลอด สุดท้ายนี้ฉันก็อยากจะขอบคุณวิทยาลัยมากๆที่ให้ฉันได้มีส่วนร่วมในประสบการณ์ที่ดีครั้งนี้ค่ะ เรียบเรียงโดย : ชุติมดี